Facebook คืออะไร

Facebook คืออะไร

Facebook คืออะไร

ถ้าหากพูดถึงว่า Facebook คืออะไร นั้นหลายคนก็จะบอกว่ารู้จักเฟซบุ๊กสะส่วนใหญ่ ซึ่งในวันนี้ผู้เขียนก็จะมาบอกข้อมูลเกี่ยวกับเฟซบุ๊กที่ทุกคนใช้อยุ่ว่ามีอะไรบ้าง โดยเฟซบุ๊กเป็นบริการเครือข่ายสังคมออนไลน์ สัญชาติอเมริกา ถูกก่อตั้งเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ค.ศ.2004 โดยผู้ก่อตั้งที่ชื่อ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก และเพื่อนของเขาที่อยู่ในมหาวิทยาลัยเดียวกัน และต่างมหาวิทยาลัยอย่างมหาลัยฮาร์วาร์ด เฟซบุ๊กนั้นอนุญาติให้เยาวชนอายุต่ำกว่า 13 ปี สามารถสมัครเป็นสมาชิกภายในเว็บไซต์ได้อย่างทั่วโลก โดยที่ไม่ต้องใช้หลักฐานใด ๆ ย้อนกลับไปวันที่ 28 ตุลาคม ค.ศ.2003 ในขณะที่ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก กำลังศึกษาอยู่ในชั้นปีที่ 2 ของมหาวทิยาลัยฮาวาร์ดนั้น ก็ได้ทำการเขียนเว็บไซต์ เฟซแมช ซึ่งต่อมาได้เปลี่ยนเป็น เฟซบุ๊ก นั่นเอง

Facebook คืออะไรกันแน่

จากที่ผู้เขียนบอกไปก่อนนี้แล้วว่า เฟซบุ๊ก นั้นป็นเครือข่ายสังคมออนไลน์ หรือในภาษาอังกฤษว่า Social Network นั่นเอง ถ้าหากใครที่สมัครใช้งานเฟซบุ๊กแล้วนั้น สามารถที่จะสร้างพื้นที่ส่วนตัว เอาไว้ใช้สำหรับแนะนำตัวเอง และยังสามารถติดต่อสื่อสารกับเพื่อน ๆ ที่เป็นเพื่อนกันในเฟซบุ๊กได้นั่นเอง โดยในพื้นที่ส่วนตัวนั้นสามารถปรับเปลี่ยนการมองเห็นได้ด้วยเช่นกัน สามารถปรับเป็นส่วนตัวที่มองเห็นได้คนเดียว ปรับให้เพื่อนมองเห็นได้ และเป็นแบบสาธารณะที่สามารถเห็นได้โดยที่ไม่ต้องเป็นเพื่อนกัน

Facebook ทำอะไรได้บ้าง

โดยภายในพื้นที่ส่วนตัวนั้นสามารถที่จะแนะนำตัวเอง หรืออัพโหลดภาพ ข้อความ แม้แต่วิดีโอก็สามารถทำได้เช่นกัน ซึ่งก็จะเป็นการแบ่งปันสิ่งต่าง ๆ ผ่านโลกอินเทอร์เน็ตไปด้วยในตัว นอกจากการอัพโหลดสิ่งต่าง ๆ ขึ้นไปในเฟซบุ๊กแล้วนั้น ยังสามารถที่จะติดต่อสื่อสารผ่าน Messenger ได้อีกด้วย แล้วยังสามารถที่จะโทรแบบเสียง หรือโทรแบบวิดีโอ ตั้งกลุ่มในการคุยงาน ทำอะไรได้หลากหลายมากมายเลย และถ้าหากจะเล่นบนโทรศัพท์มือถือก็ยังสามารถโหลดเป็นแอพพลิเคชั่นได้อีกด้วย การใช้งานสะดวกรวดเร็ว

ขอขอบคุณแหล่งข่อมูลดีดีอ

เป็นยังไงกันบ้างคะ เกล็ดข้อมูลนิด ๆ หน่อย ๆ ที่ผู้เขียนนำมาเสนอในวันนี้ อ่านแล้วสนุกกันบ้างไหมเอ๋ย ถ้าหากว่ายังสนุกไม่พอนั้นสามารถเข้ามาเล่นเกมสนุก ๆ กับเราได้ที่ สล็อตเว็บใหญ่ มีเกมสล็อตออนไลน์มากมายให้เลือกเล่น มีเกมสล็อตทุกค่ายที่คุณตามหา

Facebook คืออะไร Read More
SEO คืออะไร

SEO คืออะไร

SEO คืออะไร

SEO คืออะไร “SEO” หรือ “Search Engine Optimization” นั้นคือการที่เราดันหน้าเว็บไซต์ตัวเองให้ติดหน้าแรกเวลาค้นหาจาก Search Engine โดยที่ไม่ได้ใช้การโปรโมทเว็บไซต์ แต่ขึ้นแสดงโชว์ขึ้นมาจาก Keyword ที่ผู้ใช้งาน Search Engine ใช้งาน ตัวอย่าง Search Engine มี Google , Bing , DuckDuckGo , Yahoo เป็นต้น ซึ่งจะมีวิธีการทำที่มากมายหลากหลายตั้งแต่การทำให้หน้าเว็บของคุณนั้นมีคุณภาพ ทั้งความเร็ว และเนื้อหาภายในเว็บไซต์ ซึ่งการทำ Backlink ซึ่งทำมาจากเว็บไซต์ที่มีคุณภาพ

ซึ่งในการทำ SEO นั้นจะส่งผลให้ผู้คนเห็นหน้าเว็บไซต์ และเข้าถึงเว็บไซต์ได้มากขึ้น ถ้าหากว่าเว็บไซต์ของท่านนั้นเป็นการค้าขายสินค้า หรือเสนอขายริการต่าง ๆ ก็จะทำให้มีลูกค้าแบบออนไลน์ได้เลย เพราะว่าในปัจจุบันนั้นเกือบทุกที่ทั่วโลกสามารถเข้าใช้งานอินเทอร์เน็ตได้แล้ว และนั่นก็หมายความว่าทั่วโลกสามารถเข้าใช้งานเว็บของท่านได้นั่นเอง ลองคิดดูนะคะ ถ้าหากการขายของทั่วไปสามารถขายได้ในระแวกใกล้เคียง หรืออาจจะจัวหวัดใกล้เคียง นั้นก็มีลูกค้าที่ใช้สินค้า และบริการที่เยอะแล้ว ถ้าหากว่าผู้คนในประเทศไทยสามารถที่จะเข้ามาสั่งสินค้าได้มันจะดีขึ้นกว่าเดิมขนาดไหนละ บอกได้เลยว่าไม่ว่าจะค้าขายอะไร บริการอะไร ถ้าหากว่าท่านสามารถทำให้เว็บไซต์ติด SEO แล้วตรงกับเป้าหมายแล้วละก็ สามารถเพิ่มยอดขายให้ได้แน่นอนอย่างต่ำ ๆ ก็ 200% เลยทีเดียว

Search Engine Algorithm คืออะไร

หลายคนอาจจะสงสัย ว่า Search Engine นั้นรู้ได้ยังไงว่าเว็บไซต์ไหนที่มีคุณภาพ หรือไม่มี ต้องบอกไว้ก่อนว่าทุก Search Engine นั้นก็จะมี Algorithm ( อัลกอริทึม ) หรือถ้าเป็นภาษาไทยก็คือ กระบวนการขั้นตอนทำงานโดยละเอียด ซึ่งการทำงานของ Search Engine ก็จะไปทำการเก็บหน้าเว็บไซต์จากบนโลกอินเทอร์เน็ตมา และก็จะใช้กระบวนการพิเศษนี้ในการเช็คว่าเว็บไซต์ที่เก็บมาแต่ละเว็บนั้นมีคุณภาพไหม มีการไปลอกบทความของคนอื่น หรือไม่ ซึ่งแต่ละ Search Engine ก็จะมีการแสดงผลการค้นหาที่ไม่เหมือนกัน แต่ในบางครั้งผลการค้นหาก็จะไปในทางเดียวกันทุกตัว

เหตุผลที่ควรทำ SEO คืออะไร

เว็บไซต์ที่ติดอันดับ 1 ในหน้าของ Google นั้น จะมีคนเข้าใช้งานประมาณ 95% จากการค้นหา Keyword เพราะอย่างที่เรารู้กัน เวลาทุกคนค้นหาอะไรสักอย่าง แน่นอนเลยว่าจะเข้าอันแรกก่อน และนั่นคือสาเหตุที่ทำไมที่ 1 ถึงมีผู้คนเข้าใช้งานเยอะ ซึ่งก็จะมีผู้คนส่วนน้อยที่เลือกเข้าเว็บไซต์อันดับอื่น เนื่องจากเข้าอันดับ 1 แล้ว ยังได้ผลลัพธ์ที่ไม่น่าพอใจ และไม่ต้องห่วงเลยว่าหน้าสองนั้นจะมีคนเข้า แทบไม่มีโอกาสที่จะมีคนเข้าใช้งานเลยด้วยซ้ำ ผู้เขียนรู้ว่าทุกคนคงอยากให้ลูกค้าเข้าร้านเยอะ ๆ ใช่ไหมละคะ

ปัจจัยที่มีผลต่อ SEO

ปัจจัยภายใน ( On-page )

ปัจจัยภายใน ก็คือ การปรับให้เว็บไซต์ และเนื้อหามีคุณภาพที่ดี ได้แก่ โครงสร้างของเว็บไซต์ที่สามารถทำให้ Search Engine สามารถเข้ามาเก็บข้อมูลได้อย่างสะดวก , จำนวนการเชื่อมของลิงค์ภายในเว็บไซต์ , ข้อความของบทความต้องมีความสอดคล้องกัน , ความเร็วของเว็บไซต์ต้องสูง , เหมาะสมแก่การใช้งานบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ , เว็บไซต์มี SSL Certificate ที่ช่วยป้องกันข้อมูลต่าง ๆ

ปัจจัยภายนอก (Off-page )

ปัจจัยภายนอกนั้นก็คือ Backlink หรือว่าลิงค์ที่มาจากเว็บไซต์อื่น ๆ ซึ่งมีจำนวนเยอะยิ่งดี แต่เว็บไซต์ที่ลิงค์มานั้นก็ต้องเปเว็บไซต์ที่มีคุณภาพด้วยเช่นกัน

ขอขอบคุณแหล่งข้อมูลดีดีจาก

เว็บไซต์หลายเว็บก็อาจจะมองข้ามตรงนี้ แต่ผู้เขียนบอกเลยนะคะว่า ถ้าหากใส่ใจดูแลเว็บไซต์ของท่าน ใช้เวลาเพียงไม่นานก็จะมีคนรู้จักเว็บไซต์ของท่านที่มากขึ้นอย่างแน่นอนเลยนะคะ และผู้เขียนเชื่อว่ากิจการของท่านนั้นจะมีผลกำไรที่สูงขึ้น 2-3 เท่าเลยนะคะ ยังมีอีกเว็บที่ต้องขอบคุณอีกนั่นก็คือ สล็อตเว็บใหญ่ เว็บที่ให้พื้นที่ในการแบ่งปันบทความความรู่ดีดีนะคะ

SEO คืออะไร Read More
WordPress คืออะไร

WordPress คืออะไร

WordPress คืออะไร

ในปัจจุบันนั้นคงปฏิเสธไม่ได้ว่าอินเทอร์เน็ตนั้นสำคัญ ซึ่งใคร ๆ ก็ใช้อินเทอร์เน็ตไม่ว่าจะเป็นบุคคลธรรมดาทั่วไป หรือแม้กระทั่งผู้ประกอบการต่าง ๆ ก็ล้วนหันมาใช้งานอินเทอร์เน็ตเพื่อที่จะสามารถโปรโมทสินค้า ธุรกิจต่าง ๆ ดังนั้นแล้วการที่จะทำให้การโปรโมนั้นถึงลูกค้าก็จะมีอยู่หลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นตาม social media เช่น Facebook หรือจะเป็นเว็บไซต์ต่าง ๆ อย่าง Youtube โดยโปรโมทผ่านการโฆษณา และแน่นอนว่าการโปรโมทนั้นก็จะทำให้ผู้คนที่สนใจทำการติดต่อมายังผู้ขาย โดยที่ผู้ขายนั้นสามารถที่จะสื่อสารกับลูกค้าได้แบบอิสระเลย แต่บางครั้งการติดต่อของลูกค้านั้นไม่แน่นอน และบางครั้งเวลาที่ลูกค้าติดต่อมานั้นก็ไม่ใช่เวลาที่ทางผู้ขายเปิดทำการอยู่ ดังนั้นแล้วผู้ขายหลาย ๆ เจ้าจึงได้สร้างหน้าเว็บไซต์เพื่อโปรโมทสินค้า หรือบริการของตัวเอง ซึ่งสามารถที่จะโปรโมทสินค้าได้ตลอด 24 ชั่วโมงเลย และบางเว็บไซตืก็อาจจะสามารถสมัครเป็นสมาชิก แล้วสั่งซื้อสินค้าจากในหน้าไซต์นั้นได้เลยเช่นกัน

โปรแกรม WordPress คืออะไร

การสร้างหน้าเว็บไซต์นั้น ถ้าหากเป็นคนที่ไม่มีความรู้อะไรเลยก็ต้องจ้างโปรแกรมเมอร์ให้สร้างขึ้นมา แต่ในปัจจุบันนั้นได้มีโปรแกรมสำเร็จรูปมากมายที่จะช่วยสร้างหน้าเว็บไซต์ของคุณได้ โดยที่คุณไม่จำเป็นต้องมีความรู้ด้านโปรแกรม หรือจ้างโปรแกรมเมอร์ให้เสียเงินที่ค่อนข้างสูงเลย ซึ่งโปรแกรมที่มีคนใช้สูงที่สุดในโลกนั้นก็จะมีชื่อว่า WordPress ( เวิร์ดเพรสส์ ) เจ้าตัวนี้ก็เป็นโปรแกรมสำเร็จรูปที่ใช้สำหรับสร้าง และจัดการเนื้อหาเว็บไซต์ที่เน้นไปในด้าน Contents Management System ( CMS ) หรือจัดการในด้านคอนเทนต์นั่นเอง โดยพื้นฐานของ WordPress นั้นเขียนขึ้นมาด้วยภาษา PHP และจัดการฐานข้อมูลต่าง ๆ ด้วย MySQL

WordPress
WordPress

ตัว WordPress ก็จะมีระบบจักการต่าง ๆ ที่จะเรียกกัน “ระบบหลังบ้าน” เอาไว้จัดการสิ่งต่าง ๆ ทั้งหมดเลย ไม่ว่าจะเป็นบทความต่าง ๆ จัดการปรับแต่งหน้าเว็บไซต์ ซึ่งในตรงนี้เดี๋ยวผู้เขียนจะมาบอกอีกครั้งนึง โดยการใช้งานระบบหลังบ้านนั้นง่ายมาก เพียงแค่คลิกไม่กี่คลิก ท่านก็จะได้หน้าเว็บไซต์ที่มีบทความมาแสดงอย่างสวยงามแล้ว และแน่นอนว่าไม่ใช่แค่สร้างเว็บไซต์ให้สวยงามเพียงอย่างเดียว ด้วย Plugin ต่าง ๆ ที่มีทีมพัฒนาช่วยกันสร้างสรรค์ และพัฒนาขึ้นมามากมาย ทำให้ WordPress นั้นเหมาะแก่การทำ SEO เป็นอย่างมาก ซึ่งนั่นก็เท่ากับว่า หน้าเว็บไซต์ของท่านทั้งหลายสามารถที่จะไปแสดงโชว์อยู่บนหน้าของ Google ได้นั่นเอง

อย่างที่เรารู้กันว่าประเทศไทยใช้ Google เยอะที่สุดเมื่อเทียบกับเว็บไซต์ค้นหาอื่น ๆ คุณลองคิดดูสิ ถ้าหากว่าการขายของ หรือบริการของท่านนั้น มีคนค้นหาจาก Google จะมีคนสนใจเยอะมากขนาดไหน ถ้าหากคุณยังนึกภาพไม่ออก งั้น ลองนึกว่า Google ผู้คนใช้งานทั่วโลก เท่ากับว่าถ้าสินค้า หรือบริการของคุณเป็นที่ต้องการแล้วละก็ มีโอกาสที่ผู้คนทั้งโลกเข้ามาเยี่ยมชม และสั่งสินค้าจากเว็บไซต์ของคุณด้วยเชียวนะ ( ระดับโลกเลยนะจะบอกให้ )

เมนูภายในของ WordPress มีดังนี้

  • Dashboard ภายในหน้านี้ก็จะมีเครื่องมือลัดต่าง ๆ ในการสร้างหน้า สร้างบทความ หรือแม้แต่ปุ่มอัพเดทต่าง ๆ
  • Posts เมนูนี้นั้นใช้จัดการโพสต์ หรือบทความนั่นแหละ ไม่ว่าจะเพิ่ม ลบ แก้ไข ก็สามารถทำได้ที่หน้านี้เลย
  • Media เมนูนี้ก็จะจัดการในส่วนของรูปภาพ และวิดีโอต่าง ๆ ภายในเว็บของเรา อัพโหลด เปลี่ยนชื่อ ลบ
  • Pages เมนูนี้ก็เช่นเดียวกับโพสต์ แต่จากโพสต์เปลี่ยนเป็นเพจ สร้าง ลบ แก้ไข เพจทั้งหมด
  • Comments เมนูนี้ก็ตามชื่อเลยนะคะ จัดการคอมเม้นต์ทั้งหมดเลย ไม่ว่าจะอยู่ที่โพสไหน เพจไหน อนุมัติ หรือยกเลิกการอนุมัติ ลบ แก้ไข ทำได้หมดเลยค่า
  • Templates เมนูนี้จะใช้สำหรับเลือกใช้ธีม จัดการธีมทั้งหมด
  • Appearance เมนูนี้จะใช้จัดการตกแต่งหน้าเว็บเรานะคะ อยากปรับวิดเจ็ตให้มีอะไรบ้าง ไม่มีอะไรบ้าง
  • Plugins เมนูนี้ก็ตามชื่อเลยนะคะ จัดการปลั๊กอินทุกตัว เปิดปิดการใช้งาน ลบหรือว่าลงใหม่
  • Users เมนูนี้ใช้จัดการผู้ที่จะเข้าใช้งานโดยใช้รหัสในการ Login จะเพิ่มลด เปลี่ยนสิทธิ์ต่าง ๆ
  • Tools เมนูนี้จะเป็นเชิงลึกเกี่ยวกับเว็บไซต์จะใช้ในการนำไฟล์ฐานข้อมูลเข้ามาใช้งานนะคะ
  • Settings เมนูนี้ใช้สำหรับการเซ็ตค่าต่าง ๆ ภายในเว็บไซต์ของท่าน

ข้อดีของ WordPress

  1. ประหยัดเวลา และค่าใช้จ่าย

จากที่ผู้เขียนบอกไปก่อนนี้แล้วว่าเรื่องค่าใช้จ่ายนั้นลดลงแน่นอน เพราะว่าหากไปจ้างโปรแกรมเมอร์นั้น 1 เว็บไซต์ ราคาไม่ใช่แค่หลักร้อย ราคาอย่างต่ำ ๆ ก็หลักพัน ถึงหลักหมื่นเลยนะ ( แค่เว็บไซต์เล็ก ๆ นะ บอกไว้ก่อน ไม่ต้องพูดถึงเว็บไซต์ขนาดใหญ่เลย ) และในส่วนความรวดเร็วนั้น ผู้เขียนก็จะบอกเลยว่าแค่ติดตั้งเสร็จ ก็จะมีหน้าเว็บของคุณขึ้นมาทันที ซึ่งชื่อก็บอกอยู่ว่าเป็นโปรแกรมสำเร็จรูป และถ้าหากว่าอยากเปลี่ยนให้หน้าแรกนั้นแสดงอะไรบ้างก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลย เพียงแค่โหลด Plugin ที่เป็น Page Builder เพียงเท่านี้คุณก็สามารถที่จะลากวางสิ่งต่าง ๆ ให้ดูสวยงามได้แบบที่คุณชอบแล้ว

  1. มี Design ให้ใช้ฟรีเยอะแยะมากมาย

หน้าเว็บนั้นเป็นสิ่งที่ทุกคนจะเห็นเป็นส่วนแรก ดังนั้นแล้วการทำให้สวยงามย่อมดีกว่าอยู่แล้ว ซึ่งทาง WordPress นั้นก็ได้พัฒนา Theme ต่าง ๆ มาให้ใช้กัน แต่มันอาจจะไม่โดนใจคุณเท่าไหร่ ดังนั้นแล้วผู้คนมากมายจึงได้สร้าง และพัฒนา Theme ในแบบของตน และทำการอัพโหลดขึ้น WordPress ซึ่งจะมีทั้งแบบฟรี และจ่ายเงินซื้อ แต่บอกไว้เลยว่าสวย ๆ ทั้งนั้นแน่นอนค่ะ

  1. Plugin เยอะแยะมากมาย

บางสิ่งยางอย่างที่เราทำไม่เป็น แต่คนอื่นทำเป็น ผู้คนเหล่านั้นจึงได้รวมทีมกันสร้าง Plugin ขึ้นมาเพื่อให้สามารถใช้งานได้ตามจุดประสงค์ของผู้ใช้ และแน่นอนว่าบางตัวก็ต้องซื้อเช่นเดียวกัน แต่ก็บอกไว้ตรงนี้เลยนะคะว่า แต่ละอันคุ้มค่าแก่การซื้อมาก ๆ เลย เพราะว่าบางสิ่งเราไม่มีความรู้ และไม่สามารถทำได้แน่นอน และบางอย่างก็จะลึกลงไปเกี่ยวกับความเร็วของหน้าเว็บ ประสิทธิภาพของเว็บไซต์ ถ้าไม่เข้าใจก็งงอย่างเดียวเลยค่า

  1. SEO ทำง่าย

อย่างที่บอกไปนะคะว่า WordPress นั้นสามารถทำ SEO และแน่นอนว่า search engine อย่าง Google ก็ชอบเสียด้วย เพราะว่ามี Plugin ที่สามารถจัดการสิ่งต่าง ๆ ในหน้า หรือในบทความ โดยสามารถดูได้ว่าการจัดวางคอนเทนต์ต่าง ๆ นั้น ถูกหลัก SEO หรือไม่ ซึ่งหลัก SEO ที่ผู้เขียนหมายถึงก็จะเป็นพวกจำนวนคำที่มากเกิน น้อยเกิน ขาดคำไหนที่ต้องมี หรือไม่ ทำนองนี้ และด้วยความที่ WordPress นั้นเป็นที่นิยม การจัดเรียงไฟล์ภายในนั้นจึงเป็นอะไรที่เรียบร้อย และ Google สามารถที่จะเข้าถึงได้โดยง่ายอีกด้วย

  1. WordPress มีการอัพเดทที่สม่ำเสมอ

การตามทันเทคโนโลยีให้ทันนั้นเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่ง WordPress ก็ได้อัพเดทเสมออัพเดทตลอด เพราะโลกเราไม่เคยหยุดหมุน และอะไรที่ใหม่ ๆ ก็จะถูกเพิ่มเข้ามาเรื่อย ๆ เรียกได้ว่าไม่ตกยุคแน่นอน

  1. เป็นแหล่งรวมนักพัฒนา

เนื่องจากตัว WordPress เองเป็นดปรแกรมที่เป็น Open-source Software ที่เปิดให้สามรถใช้งานฟรี และพัฒนาต่อได้อย่างอิสระ และแน่นอนว่าก็มีนักพัฒนาเยอะแยะที่ให้ความสนใจ และได้พัฒนาสิ่งต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Theme Plugin เพื่อที่จะอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้ได้อย่างดีเยี่ยมนั่นเอง

ขอบคุณแหล่งข้อมูลดีดีจาก

และท้ายที่สุดนี้ทุกท่านที่เข้ามาอ่านบทความนี้ก็คงจะรู้แล้วว่า WordPress คืออะไร ใช่ไหมคะ และก็ต้องขอขอบคุณเว็บสล็อตเว็บใหญ่ที่ให้พื้นที่ในการแบ่งปันข้อมูลดีดีแบบนี้ ซึ่งถ้าหากใครอยากสร้างกำไรจากเกมสล็อตก็สามารถเข้าเล่นได้ที่เว็บนี้ได้เลยนะคะ บอกได้เลยว่าได้ความรู้ดีดี แถมยังมีเกมเล่นสนุก ๆ แล้วได้เงินอีก ไม่มีที่ไหนดีกว่านี้อีกแล้วนะ

WordPress คืออะไร Read More
Youtube คืออะไร

Youtube คืออะไร

Youtube คืออะไร

ถ้าหากพูดคำว่า “ยูทูบ” หรือ “ยูทูป” ผู้เขียนเชื่อว่าทุกคนต้องร้อง “อ้อ” กันแน่นอนเลยนะคะ แต่ถ้าหากใครที่ไม่รู้จักนั้นผู้เขียนจะบอกให้นะคะ Youtube คืออะไร ยูทูบเป็นเว็บไซต์ที่ใช้เผนแพร่วิดีโอ โดยสามารถที่จะนำวิดีโออัพโหลดขึ้นไปได้ แต่ต้องเป็นสมาชิกกับทางยูทูบก่อนนะคะ โดยสามารถที่จะเข้าใช้งานเว็บไซต์นี้ได้ทั่วโลก และนั่นก็หมายความว่าวิดีโอที่อัพโหลดขึ้นไปนั้น ก็สามารถเผยแพร่แล้วสามารถดูได้ทั่วโลกนั่นเอง ซึ่งผู้ที่ก่อตั้งยูทูบนั้นมีด้วยกัน 3 คน ได้แก่ แชด เฮอร์ลีย์ , สตีฟ เชน และยาวีด คาริม และเปิดใช้งาน Youtube ครั้งแรกนั้นวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ.2005 และได้อัพโหลดวิดีโอครั้งแรกในวันที่ 23 เมษายน ค.ศ.2005 โดยคลิปชื่อว่า Me at the zoo

Youtube
Youtube

ในช่วงแรกนั้น Youtube สามารถอัพโหลดวิดีโอ และเปิดดู แบ่งปันภาพวิดีโอต่าง ๆ โดยที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ เลย ซึ่งก็เป็นนโยบายของผู้ก่อตั้งที่ว่าไม่มีโฆษณา และสามารถดูวิดีโอได้ฟรี กับแบบทั่วโลก แต่ในภายหลัง Youtube ก็ได้ถูกซื้อตัวโดย Google ในวันที่ 9 ตุลาคม ค.ศ.2006 ด้วยมูลค่าสูงถึง 1,650 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยรูปแบบในการขายในครั้งนี้นนั้นคือการแลกเปลี่ยนหุ้น และหลังจากที่รวมกับ Google แล้วก็จะมีการโฆษณาเพิ่มขึ้นมานิดหน่อย

การใช้งาน Youtube ก็ไม่ยากเย็นอะไรเลย เพียงแค่มีโทรศัพท์มือถือ หรือคอมพิวเตอร์ที่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ โดยถ้าอุปกรณ์ของคุณเป็นโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนนั้น สามารถโหลดแอพพลิเคชั่นได้จาก App Store ( IOS ) หรือ Play Store ( Android ) โดยสามารถอัพเกรดเป็นตัว Youtube Premium ได้เช่นกัน แต่ก็จะมีค่าใช้จ่ายตามแพ็คเกจ ซึ่งตัว Youtube Premium ก็จะมีสิ่งที่พิเศษกว่า Youtube ธรรมดาซึ่งจะมีตามรายการข้างล่างเลย

สิทธิประโยชน์ของ YouTube Premium

  • ดูวิดีโอแบบไม่มีโฆษณา
  • ดาวน์โหลดวิดีโอเพื่อดูแบบออฟไลน์
  • การเล่นขณะล็อกหน้าจอ หรือขณะใช้แอปอื่น
  • สามารถใช้ YouTube Music Premium ได้
  • สามารถใช้ YouTube Originals ได้

บางคนก็จะเห็นว่าบางอย่างไม่สำคัญ แต่เพื่อความลื่นไหลในการชมวิดีโอ หรือฟังเพลง ผู้เขียนบอกได้เลยว่าคุ้มแน่นอน ( ผู้เขียนก็ใช้อยู่เหมือนกัน ) โดยสามารถซื้อแพ็คเกจได้ตั้งแต่คนเดียว จนถึงเป็นครอบครัวได้เลย มา4จ่าย1 อารมณ์ประมาณนี้เลยนะคะ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก

สรุปแล้ว Youtube คืออะไร

ทีนี้หลายคนที่ยังไม่เคยรู้จักยูทูบก็คงจะรู้จักกันแล้วนะคะ ซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่แค่วิดีโอ หรือเพลงที่มีอยู่บนยูทูบเท่านั้นนะคะ ยังมีเหล่าสตรีมเมอร์ที่จะคอยสร้างคอนเทนต์ต่าง ๆ ให้ทุกคนได้ดูอีกด้วย ซึ่งจะมีความแปลกแหวกแนว หรือเป็นเอกลักษณ์เฉพาะคนที่แตกต่างกันใคร ลองเปิดใช้งานดูนะคะ รับร้องว่าวันว่าง ๆ ของท่านจะไม่มีเบื่ออีกต่อไปเลยค่ะ และถ้าหากว่าท่านยังเบื่ออยู่นั้น สามารถที่จะสมัครสมาชิกกับทางเราสล็อตเว็บใหญ่เพื่อที่จะมาเล่นเกมสล็อตสนุก ๆ ได้ทุกเมื่อเลยนะคะ รับรองสนุกไม่แพ้ดู Youtube เลยค่า

Youtube คืออะไร Read More
DuckDuckGo search engine ที่เติบโตแบบเงียบ ๆ

DuckDuckGo search engine ที่เติบโตแบบเงียบ ๆ

DuckDuckGo search engine ที่เติบโตแบบเงียบ ๆ

การค้นหาข้อมูลนั้นสามารถทำได้ง่ายกว่าในอดีตมาก เพราะในปัจจุบันได้มีโปรแกรมค้นหาที่สามารถเข้าใช้งานผ่านอินเทอร์เน็ตได้เพียงแค่มีโทรศัพท์มือถือเพียงเครื่องเดียว และแน่นอนว่าข้อมูลที่สืบค้นได้นั้น ค่อนข้างมีความสอดคล้องกับสิ่งที่ใช้ค้นหา Keyword หรือจะพูดให้เข้าใจง่าย ๆ ก็คือ คำ วลี หรือประโยคที่เราใช้ค้นหานั่นเอง

ในปัจจุบันนั้นมี search engine ที่ได้พัฒนาเพิ่มขึ้นมามากมาย DuckDuckGo ก็เป็นอีกหนึ่งเสิร์ชเอนจินที่ได้ถูกพัฒนาขึ้นมาเหมือนกัน ซึ่งทาง DuckDuckGo search engine ก็ได้เน้นไปยังเรื่องของความปลอดภัยของข้อมูลและการค้นหาเป็นหลัก ที่จะเป็นจุดเด่นของตัวนี้เพื่อที่จะชนะคู่แข่งอย่าง Google ให้ได้ ซึ่งวันนี้ผู้เขียนก็จะมาบอกว่าจุดเด่นอะไรบ้างที่จะมัดใจผู้ใช้กว่า 100 ล้านคนต่อวันได้ เราไปดูกันเลย

ประวัติย่อของ DuckDuckGo search engine

DuckDuckGo ได้ก่อตั้งโดย Gabriel Weinberg และเปิดใช้งานมาตั้งแต่ปี 2008 โดยมีรูปโลโก้เป็นรูป “เป็ด” ซึ่งถ้าหากดูผ่าน ๆ ก็จะเห็นว่าไม่แตกต่างอะไรกับ search engine ตัวอื่น ๆ เท่าไหร่นัก แต่สิ่งที่โดดเด่นกว่า search engine ตัวอื่นก็คือ ความปลอดภัย ( Privacy ) ซึ่งทาง DuckDuckGo กล้าที่จะยืนยันนอนยันเลยว่าข้อมูลต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลส่วนตัวของตัวผู้ใช้เอง หรือข้อมูลการต้นหาของผู้ใช้ทุกท่านนั้น จะไม่มีการหลุดเป็นอันเด็ดขาด

นอกจากนี้ก็ยังมีเรื่องของการไม่ Tracking ข้อมูลผู้ใช้ ไม่มีคุ้กกี้ นั่นหมายความว่าจะไม่ทำให้ผู้ใช้รำคาญใจกับโฆษณา ด้วยความที่ผู้ก่อตั้งนั้นเป็นคนหนึ่งที่ใช้ Google ในการค้นหาข้อมูลอยู่เป็นประจำ แต่ก็เจอโฆษณาที่เยอะแยะเต็มไปหมด และทำให้การค้นหาข้อมูลของเขานั้นล่าช้า เพราะไม่ได้ข้อมูลที่ต้องการหาจริง ๆ สักที และด้วยความที่เขาก็เป็นคนที่ทำงานในด้าน software อยู่แล้วด้วย เขาจึงได้คิดว่าการใช้งานแบบนี้แน่นอนว่าจะมีการเก็บข้อมูลต่าง ๆ เพื่อที่จะนำไปขายให้กับบริษัทใหญ่ ๆ อย่างแน่นอน ด้วยความคิดนี้ของเขาทำให้เขาได้คิดอยากจะสร้าง search engine ที่ไม่มีระบบติดตามผู้ใช้ และสามารถใช้ค้นหาข้อมูลได้อย่างรวดเร็วที่สุด

DuckDuckGo หารายได้จากที่ไหน

เนื่องจากว่า DuckDuckGo เปิดให้ทุกคนสามารถใช้งานได้แบบฟรี ๆ คงจะมีหลายคนที่สงสัยว่าแล้วจะทำรายได้จากช่องทางไหน คำตอบก็คือ การโฆษณา แต่เป็นการโฆษณาที่ไม่ได้วิเคราะห์ประวัติการใช้งานหรือความสนใจของผู้ใช้ แต่เป็นการที่ตัวโปรแกรมจะไปทำการสืบค้นและเชื่อมโยงข้อมูลเองในละรอบการค้นหา ยกตัวอย่างเช่น คุณค้นหาเครื่องดูดฝุ่น ภายในการค้นหาก็จะมีเครื่องดูดฝุ่นแสดงขึ้นมาให้คุณเลือกดูข้อมูลต่อ และเป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น ซึ่งถ้าหากผ่านมาอีกวันหนึ่งคุณค้นหาอะไรก็แล้วแต่ จะไม่เจอเครื่องดูดฝุ่นที่ค้นหาไว้เมื่อวันก่อน ซึ่งด้วยเหตุนี้นั้นเองที่เป็นข้อดีของ DuckDuckGo แต่ก็มีผู้คนอยู่ไม่น้อยที่ไม่ชอบระบบแบบนี้ เพราะบางคนอาจจะย้อนกลับไปดูสิ่งต่าง ๆ ที่เคนค้นหาเมื่อเวลาผ่านไป

สรุป DuckDuckGo สั้น ๆ

และสุดท้ายนี้ ถ้าหากใครที่อยากได้ความปลอดภัยของข้อมูลก็สามารถเลือกที่จะใช้ DuckDuckGo ในการค้นหาข้อมูลได้นะคะ แต่ถ้าหากเรื่องความสะดวกสบายแล้วก็ต้องยกให้ Google ไปก่อนเลย ซึ่งแต่ละอย่างมีข้อดีของมัน และแตกต่างกันไม่มากก็น้อย จะเลือกให้เพื่อให้เหมาะสมกับการค้นหาของท่านได้เลยนะคะ และในวันนี้ผู้เขียนก็ขอขอบคุณ สล็อตเว็บใหญ่ ที่เป็นพื้นที่ในการแบ่งปันข้อมูลดีดีแบบนี้ หวังว่าทุกคนคงจะชอบนะคะ

ขอขอบคุณข้อมูลดีดีจาก

DuckDuckGo search engine ที่เติบโตแบบเงียบ ๆ Read More
Bing search engine คืออะไร

Bing search engine คืออะไร

Bing search engine คืออะไร

ถ้าพูดถึงการค้นหาบนอินเทอร์เน็ตแล้ว สิ่งแรกที่หลาย ๆ คน คิดถึงก็คือ Google หรือ “อากู๋” ที่เราชอบเรียกกันนั่นเอง ซึ่งเราใช้กูเกิลมานานมากแล้ว ใช้ในการค้นหาข้อมูลต่าง ๆ ไม่ว่าจะเอามาทำรายงาน งานส่งคุณครู วิจัย เยอะแยะมากมาย และด้วยความที่ฐานข้อมูลของ Google นั้นใหญ่มากกว้างมาก หาอะไรก็ก็เจอ ผู้คนทั่วไปจึงนิยมค้นหาสิ่งต่าง ๆ ผ่าน google กัน แล้ว Bing search engine คืออะไร ในปัจจุบันนั้น search engine ก็มีมากขึ้น อย่างเช่น Bing.com ที่เป็นลูกรักของ Microsoft ซึ่งเปิดตัวขึ้นมาเพื่อชิงตำแหน่งเครื่องมือค้นหาที่ดีที่สุดกับ Google นั่นเอง

Bing search engine คืออะไร

Bing ก็สามารถค้นหาข้อมูลต่าง ๆ เหมือนกับ Google แต่ก็จะมีความโดดเด่น และความพิเศษจาก Gimmick ที่หลากหลาย เช่น ธีมที่มีการเปลี่ยนทุกวัน และนอกจากนั้นก็ยังมีช่องสี่เหลี่ยมที่ใช้คลิกเข้าอ่านข้อมูลเพิ่มเติมอยู่กระจายประมาณ 3 แห่ง เพื่อให้สะดวกในการกดอ่าน

Google
Google

ในอดีตจนถึงปัจจุบันก็ไม่สามารถที่จะปฏิเสธได้เลยว่า Google นั้นเป็นตัวเลือกใช้อันดับ 1 ในหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทยด้วยเช่นกัน ถ้าหากเปรียบเทียบระหว่างเสิร์ชเอนจินทั้ง 2 ตัวนั้นอาจจะละม้ายคล้ายคลึงกัน แต่ถ้าหากใช้งานจริงและสังเกตลึกลงไปจะพบว่าแต่ละอย่างก็จะมีลูกเล่นไม่เหมือนกัน ยกตัวอย่าง ถ้าหากว่าค้นหาภาพ แล้วผลที่ได้นั้นมีไฟล์ VDO มาด้วย Bing จะแสดงรูปย่อของ VDO นั้น และยังสามารถนำเมาส์ไปวางเพื่อดูตัวอย่างนิดหน่อย ก่อนที่คุณจะลงนิ้วคลิกเข้าไปดู ซึ่งถ้าเป็นการดูตัวอย่างก็จะสามารถทำให้รู้ได้ว่า VDO อันนี้ เป็นสิ่งที่ตามหาอยู่ใช่ หรือไม่ ถ้าหากใช่ก็คลิกดูคลิปเต็ม แต่หากว่าไม่ก็เลื่อนผ่านมันไป ซึ่ง VDO ที่นำมาแสดงนั้นส่วนใหญ่ Bing จะนำมาจาก MySpace และก็จะมี VDO ที่มาจาก Youtube ปะปนอยู่ด้วย ซึ่งแน่นอนว่าถ้าหากค้นหากับ Bing มีโอกาสที่ท่านจะเจอ VDO ที่ไม่มีใน Youtube นั่นเอง

จุดเด่น และจุดด้อยของ Bing

ส่วนจุดเด่นที่แตกต่างกับ Google อย่างเห็นได้ชัดเลยก็คือ การค้นหาของท่านนั้นจะไม่พบเว็บไซต์ที่มีการโฆษณาขึ้นมาเป็นอันดับต้น ๆ ให้เห็น เพราะว่า Microsoft อยากให้ผู้ใช้เจอข้อมูลมากกว่าที่จะเจอร้านขายของ

ข้อดีอื่น ๆ ของ Bing

  • การเข้าถึงข้อมูลที่นอกจากการค้นหา เช่น ภาพที่น่าสนใจ ข่าวสารต่าง ๆ หรือเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์
  • การจัดทำดัชนีของวิดีโอที่ยอดเยี่ยม
  • ง่ายต่อการค้นหาด้วยภาพ
  • หน้าต่างใช้งานที่ดูสวยงาม
  • อัพเดทอัลกอริทึมใหม่ ๆ อยู่เสมอเพื่อแข่งขันกับคู่แข่ง

จุดด้อยอื่น ๆ

  • ไม่ค่อยเข้าใจเจตนา และบริบทเท่าไหร่
  • ไม่ได้นำเสนอข้อมูลการเข้าถึงให้กับบริษัทที่มากพอ
  • จัดอันดับฟอรั่มต่ำกว่าไซต์ที่เก่ากว่า และเป็นที่นิยมมากกว่า

สิ่งที่พิเศษอีกอย่างหนึ่งก็คือ Bing มีแอพพลิเคชั่น ซึ่งสามารถใช้งานได้ทั้งระบบ Android และ IOS ด้วยนะคะ สามารถเข้าไปโหลดได้จาก Google Play สำหรับแอนดรอยด์ และ App store สำหรับไอโอเอส เลยนะคะ ภายในแอพพลิเคชั่นนี้ คุณสามารถค้นหาอะไร ค้นหาสิ่งใดก็ได้ สะดวกสบายมาก ๆ เลย

เป็นยังไงมั่งคะ คุณใช้ตัวค้นหาแบบไหนอยู่คะ ส่วนตัวผู้เขียนก็ใช้ Google อยู่ ใช้เหมือนกับผู้เขียนกันไหมคะ ถ้าหากใครที่กำลังจะเข้า Google หรือ Bing เพื่อที่จะหาเว็บเล่นสล็อตแล้วละก็ขอบอกเลยว่าไม่ต้องหานะคะ เพราะว่าที่นี่ สล็อตเว็บใหญ่ เป็นเว็บสล็อตที่มีครบทุกอย่างครบวงจรอยู่แล้สยังไงละคะ มีเกมสล็อตทุกค่ายให้เลือกเล่นกว่า 300 เกม โหมดทดลองเล่นสล็อต อะไรอีกหลายอย่างเลยนะคะ อย่ารอช้า เข้ามาสมัครเพื่อเป็นส่วนหนึ่งกับเราแล้วสนุกไปด้วยกันนะคะ

ขอขอบคุณข้อมูลดีดีจาก

Bing search engine คืออะไร Read More
Social Media VS Social Network

Social Media กับ Social Network คืออะไร และต่างกันอย่างไร

Social Medie & Social Network

ในปัจจุบันหลาย ๆ คนก็อาจจะเคยได้ยินคำว่า Social Media และ Social Network อยู่เป็นกระจำ แต่เคยสงสัยหรือเปล่าว่า ทั้งสองอย่างนี้คืออะไรกันแน่ และแตกต่างกันอย่างไร และในวันนี้ผู้เขียนจะมาบอกกันนะคะ ว่าทั้งสองอย่างนี้คืออะไรแล้วแตกต่างกอันอย่างไร

Social Network

Social Network

ในอดีต เครือข่ายสังคมออนไลน์ ( Social Network ) เป็นรูปแบบของการทำงานต่าง ๆ โดยที่มีหน่วยงาน และผู้ใช้งาน ทำงานร่วมกันเป็นเครือข่าย เพื่อที่จะสามารถใช้ทรัพยากรข้อมูล หรือแบ่งปันข้อมูลให้แก่กันได้

แต่ในปัจจุบัน Social Network นั้นหมายถึง เครือข่ายสังคมบนโลกออนไลน์ หรือก็คือ การติดต่อสื่อสารกันผ่านระบบอินเทอร์เน็ต เช่น การสร้างกลุ่มเพื่อเป็นแหล่งพบปะกันบนโลกออนไลน์ หรือสร้างองค์กรไร้สาย ซึ่งถ้าหากว่าเว็บไซต์ไหนที่เป็นเว็บโซเชียลเน็ตเวิร์ค นั่นแสดงว่าเว็บนั้นจะมีการเชื่อมโยงของผู้ใช้เข้าด้วยกัน โดยเว็บโซเชียลเน็ตเวิร์คนั้นจะมีพื้นที่ที่จะทำให้ผู้คนหลาย ๆ คนเข้ามาเพื่อทำความรู้จักกัน มีเครื่องมือ หรือฟังก์ชั่นต่าง ๆ ที่อำนวยความสะดวกในการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างผู้ใช้เว็บด้วยกัน และยังมีพื้นที่ของแต่ละสมาชิกที่สามารถลงเนื้อหาต่าง ๆ เพื่อแชร์ให้กับผู้ที่ติดตามได้รู้

ซึ่งข้อจำกัดในการเพิ่มเนื้อหาลงในเว็บโซเชียลเน็ตเวิร์คนั้นก็จะมีข้อจำกัด ตามนโยบายขององค์กรนั้น ๆ ถ้าหากไม่ผิดนโยบายก็สามารถใช้ในการแบ่งปันความสนุกสนาน แบ่งปันเนื้อหาความรู้ต่าง ๆ ใช้ติดต่อสื่อสาร สามารถใช้ได้มากมายอยู่ที่เจ้าของบัญชีจะสามารถดัดแปลงได้เลย เว็บโซเชียลเน็ตเวิร์คที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ก็จะมีอยู่เช่น เฟซบุ๊ก ( Facebook ) , ทวิตเตอร์ ( Twitter ) , ไฮไฟฟ์ ( Hi5 ) , ไลน์ ( Line ) อันสุดท้ายนี้จะเป็นโปรแกรมประยุกต์ เป็นต้น และหลาย ๆ แบรนดิ์ก็ได้พัฒนาให้สามารถใช้บนสมาร์ตโฟนได้แล้ว และโปรแกรมเพิ่มเข้ามาอีกด้วยอย่างเช่น ไลน์

Social Media

โซเชียลมีเดีย หมายถึง สื่ออิเล็กทรอนิกส์ที่เป็นศูนย์กลางการสื่อสาร ที่ให้บุคคลทั่วไปสามารถเข้ามาใช้งานเพื่อสร้างสังคมออนไลน์ได้ ซึ่งสังคมออนไลน์ที่ผู้ใช้ ใช้บริการนั้นบริการ สามารถสื่อสารกันผ่านทาง การเขียนเล่าเรื่อง เนื้อหาต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นรูปภาพ วิดีโออาจจะของผู้ใช้เอง หรือเป็นวิดีโอที่สร้างขึ้นมาเอง และทำการแบ่งปันแชร์ให้กับผู้อื่นที่อยู่ในเครือข่ายของสังคมออนไลน์เดียวกัน โดยผ่านทาง Social Network ที่ให้บริการอยู่บนโลกอินเทอร์เน็ต

ตัวอย่างเว็บโซเชียลมีเดียว

  1. Facebook
  2. Twitter
  3. Youtybe
  4. Whatsapp
  5. Instagram
  6. Wechat
  7. Reddit
  8. Pinterest
  9. Tiktok
  10. Line

แต่ละเว็บโซเชีลมีเดียก็จะมีรูปแบบ และการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป

Facebook
Facebook
Twitter
Twitter
Youtube
Youtube

Facebook

เฟสบุ๊ค นั้นมีสมาชิกใช้งานมากมายทั่วโลก เนื่องจากความสามารถที่หลากหลาย อย่างเช่น หน้าฟีดข่าว เปรียบเสมือนหน้าหลักที่เวลามีการ โพสต์ หรือแชร์ข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ จากผู้ที่เราติดตาม หรือเพื่อนของเรานั้น จะสุ่มขึ้นมาแสดงให้เราเห็นกันในหน้านี้ และสามารถเลื่อนลงไปเพื่อดูโพสอื่น ๆ ได้ แล้วยังสามารถที่จะคอมเม้นต์ หรือที่เรียกว่าแสดงความคิดเห็นต่อโพสต์ หรือต่อแชร์นั้นได้ด้วย เฟสบุ๊คนั้นไม่เพียงโพสต์ หรือแชร์ได้เท่านั้น ยังสามารถที่จะส่งสตอรี่สั้น ๆ ที่เป็นเรื่องราวของตัวเรา จะแสดงให้ผู้อื่นดูได้เพียงแค่ 24 ชั่วโมงต่อสตอรี่เท่านั้น ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่หลาย ๆ คนชอบกันเลยทีเดียว เฟสบุ๊คนั้นยังสามารถสร้างกลุ่มเพื่อรวมผู้ใช้ที่มีความคิดไปในทางเดียวกันมาแชร์ประสบการณ์ข้อมูลในกลุ่มได้อีกด้วย ยังมีฟีเจอร์ที่สามารถสนทนากับเพื่อนได้ทั้งแบบตัวอักษร และแบบวิดีโอคอลก็ได้เช่นกัน

Twitter

ทวิตเตอร์ ก็มีผู้ใช้บริการคนไทยเป็นอันดับต้น ๆ เช่นกัน ความสามารถของทวิตเตอร์นั้นก็มีฟีดข่าวเหมือนกัน ซึ่งจะสามารถแสดงขึ้นมาเรื่อย ๆ ตามคนที่เราติดตามอยู่ แต่ข้อดีที่ทางทวิตเตอร์นั้นมีคือ ข่าวสารรวดเร็ว ถ้าหากว่าเราได้ติดตามใครอยู่ เวลามีข่าวต่าง ๆ จะไวมาก และแทบจะรู้ได้ทันทีเลย ซึ่งหลาย ๆ อย่างที่เป็นไวรัลถ้าหากมีคนที่ทำการโพสต์ หรือแชร์ลงในทิวเตอร์แล้วอาจจะดังขึ้นในชั่วข้ามคืนเลยก็ได้ และสิ่งที่ทำให้ทวิตเตอร์มีผู้ใช้มากมายนั้นอีกเหตุผลหนึ่งที่คนเลือกใช้งานเพราะว่า คนอื่นจะไม่รู้จักตัวตนของเรา เพราะทวิตเตอร์นั้นไม่ต้องยืนยันตัวตนตอนสมัคร

Youtube

ยูทูปก็เป็นอีกหนึ่งเว็บไซต์ที่คนใช้กันเยอะที่สุด เนื่องจากจุดเด่นหลังของยูทูปคือการอัพวิดีโอ หรือเพลง เพื่อให้สามารถดูได้ทั่วโลกอินเทอร์เน็ต ภายในแต่ละวิดีโอนั้น ผู้ที่เป็นสมาชิกทั่วไปสามารถแสดงความคิดเห็นลงไปได้ เพื่อที่จะสื่อสารกับเจ้าของวิดีโอ หรือสื่อสารกับสมาชิกรายอื่น ซึ่งตัวยูทูปเองก็ได้ถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 2005 ซึ่งเป็นเวลาเกือบ 20 ปีมาแล้ว และแน่นอนในยุคนั้นก็จะมีคนที่อัพวิดีโอ และเพลงในยุคนั้นอยู่ ซึ่งบางวิดีโอ หรือเพลงนั้นจะหาไม่ได้แล้วในยุคนี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ยูทูปสามารถทำได้

เป็นยังไงบ้างคะวันนี้ สล็อตเว็บใหญ่ ได้นำข้อมูลความรู้ดีดีมาแบ่งปัน ชอบกันไหมคะ ถ้าหากว่าชอบอย่าลืมเข้ามาอ่านข่าวกับทางเราทุกวันนะคะ ยิ่งวันไหนเบื่อ ๆ ทางเรามีเกมให้เล่นด้วยนะคะ เกมที่เล่นแล้วได้เงินจริง นะจะบอกให้ เปิดบริการ 24 ชั่วโมง ไม่มีวันหยุด หรือปิดปรับปรุงแน่นอน

Social Media กับ Social Network คืออะไร และต่างกันอย่างไร Read More
Apple แบรนด์นี้ ใช่เลย

Apple แบรนด์นี้ ใช่เลย

Apple แบรนด์นี้ ใช่เลย

บริษัทแอปเปิล หรือชื่อเดิมคือ บริษัทแอปเปิลคอมพิวเตอร์ ชื่อภาษาอังกฤษ Apple Computer Inc. สถานที่ตั้งอยู่ที่ซิลิคอนแวลลีย์ ซึ่งเป็นบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ซึ่งยุค 70 บริษัทแอปเปิลได้ทำการปฏิวัติคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ ด้วยเครื่อง แอปเปิล I และแอปเปิล II ต่อมาในยุค 80 แมคอินทอช ( Macintosh ) หรือที่รู้จักในกันในชื่อของ Mac ก็ได้ถือกำเนิดขึ้น ในปัจจุบันนั้นแอปเปิลมีชื่อเสียงทางด้านสินค้า และบริการที่มีคุณภาพเช่น iMac iPod iPhone iPad และ iTunes

ประวัติความเป็นมาของ Apple

Apple

จุดเริ่มต้นของบริษัท Apple Computer Inc. ในปี ค.ศ. 1976–1980

Apple I
Apple II

บริษัท Apple Computer Inc. นั้นได้เกิดขึ้นจากการร่วมกันก่อตั้งของผู้ก่อตั้ง 2 คน คือ สตีฟ จ็อบส์ ( Steven Paul Jobs ) และ สตีฟ วอซเนียก ( Steve Wozniak ) ทั้งคู่ได้ทำการปฏิวัติธุรกิจคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะในยุค 70 โดยการผลิตคอมพิวเตอร์เครื่องแรกที่ประดิษฐ์จากโรงรถ ออกมาขาย ซึ่งใช้ชื่อว่า Apple I ในเดือนกรกฎาคม ค.ศ.1976 หลังจากที่ผลิต Apple I ได้หนึ่งปีแล้วนั้น ปีถัดมาเดือนเมษายน ค.ศ.1977 ก็ได้ผลิตคอมพิวเตอร์อีกหนึ่งเครื่องที่ทำยอดจำหน่ายสูงสุดให้กับบริษัท คือ Apple II ซึ่งเป็นการเกิดศักราชใหม่แห่งวงการไมโครคอมพิวเตอร์ และยังเป็นการสร้างมาตรฐานให้กับไมโครคอมพิวเตอร์ที่ผลิตตามหลังมาอักด้วย แล้วในปี ค.ศ.1980 แอปเปิลได้มีทีมงานนักออกแบบ และสามารถผลิตเองได้ จึงได้ทำการเปิดตัว Apple III ในเดือนพฤษภาคมปีนั้นเลย ด้วยความที่จะแข่งขันกับ ไอบีเอ็ม ( IBM ) และไมโครซอฟท์ ( Microsoft ) แต่ก็ประสบกับความล้มเหลว

Lisa และ Macintosh ในปี ค.ศ.1981-1985

Apple Lisa
Macintosh

ในยุค 80 Steve Jobs ได้ทำการพัฒนาคอมพิวเตอร์อีกรุ่นชื่อว่า Apple Lisa ในปี ค.ศ.1978 และในปี ค.ศ.1982 Steve Jobs ได้ถูกขับออกจากทีมพัฒนาเนื่องจากเหตุทะเลาะวิวาทกันภายในทีม ส่งผลให้เขาต้องไปทำโปรเจกต์Macintosh ที่ Jef Raskin ได้เริ่มโปรเจกต์เอาไว้ แต่สงครามภายในบริษัทระหว่าง Steve Jobs กับมนุษย์ออฟฟิศก็ได้เริ่มขึ้นอีกครั้ง ในคราวนี้เป็นที่ถกเถียงกันว่าผลิตภัณฑ์ไหน ควรจะได้รับการเปิดตัวก่อนกันแน่ ผลปรากฏว่า Lisa ได้รับสิทธิในการเปิดตัวก่อนซึ่งเปิดตัวในปี ค.ศ.1983 และนับว่าเป็นคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลเครื่องแรกที่มาพร้อมกับ GUI แต่ก็ล้มเหลวเช่นเคย เพราะราคาขายปลีกที่สูงเกินจนลูกค้าไม่สามารถซื้อได้

และในปีต่อมา ค.ศ.1984 ก็เป็นคิวของการเปิดตัว Macintosh แต่คราวนี้ได้เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่อลังการ ด้วยโฆษณาทีวีที่ทุนสร้างมากมายมหาศาลถึง 1.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โฆษณาชื่อว่า “1984” ซึ่งกำกับโฆษณาโดย Ridley Scott ซึ่งโฆษณานั้นเป็นงานชิ้นโบว์แดงของแอปเปิลเลยทีเดียว เพราะว่าได้รับเสียงตอบรับอย่างล้นหลาม และกอบกู้ผู้บริโภคจากคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลแบบเดิม ๆ ในยุคนั้นด้วยเช่นกัน

ช่วงแรกนั้น Macintosh ขายได้ดีมาก ๆ แต่ต่อมายอดขายก็กลับลดลงเรื่อย ๆ เนื่องจากราคาของตัวเครื่องที่สูงเกินไป บวกกับซอฟต์แวร์ที่รองรับมีอยู่อย่างจำกัด ต่อมาได้มีการเปิดตัว LaserWriter เป็นเครื่องพิมพ์เลเซอร์ที่ราคาค่อนข้างสมเหตุสมผลมาก ๆ พร้อมทั้ง PageMaker ที่เป็นซอฟต์แวร์เกี่ยวกับสิ่งพิมพ์ที่เป็นซอฟต์แวร์แรก ๆ เช่นกัน และเนื่องด้วยความสามารถกราฟิกที่สูงกว่าคนอื่นอย่างเห็นได้ชัด

Steve Jobs
Steve Wozniak
John Sculley

ต่อมาในปี ค.ศ.1985 Steve Jobs กับ John Sculley ที่เป็น CEO ของ Apple ในขณะนั้น ได้ผิดใจกันชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยความที่บอร์ดผู้บริการของ Apple พยายามที่จะจำกัดสิทธิ์เสียงของ Steve Jobs ในบริษัท และในบริษัทยังมีการมอบหมายงานใหญ่ ๆ ให้กับ John Sculley เป็นคนตัดสินแทน Steve Jobs อีกด้วยและทำให้เขาอึดอัดใจเป็นอย่างมาก หลายต่อหลายครั้งที่ Steve Jobs พยายามนัดประชุมบอร์ดผู้บริหารโดยที่ไม่มี John Sculley อยู่ในการประชุม และในที่สุด Steve Jobs ก็ถูกไล่ออกจากบริษัท บริษัทที่เขาสร้างมันมากับมือ และเขาก็ไปเปิดบริษัท NeXT Inc. ในปีเดียวกันนั้นเอง

ช่วงรุ่งโรจน์ และโรยรา ในปี ค.ศ.1986-1993

ในปี ค.ศ.1991 นั้น Apple ได้เปิดตัวเครื่องคอมพิวเตอร์พกพาสมัยใหม่ เครื่องแรกของโลกในชื่อของ PowerBook ซึ่งถือว่าเป็นต้นแบบของคอมพิวเตอร์แล็ปทอปในปัจจุบันเลย และภายในปีเดียวกันนั้นก็ยังเปิดตัว System 7 ซึ่งเป็นการอัพเกรดระบบของ Apple ครั้งยิ่งใหญ่อีกครั้ง ด้วยการเพิ่มอินเตอร์เฟสแบบสี การเปิดตัว PowerBook นั้นประสบความสำเร็จ และสามารถสร้างกำไรเข้าบริษัทได้เป็นจำนวนมาก มากจนเรียกได้ว่าในช่วงปี ค.ศ.1990-1991 เป็นช่วงขาขึ้นของบริษัทเลยก็ว่าได้

ในช่วงเวลานี้ Apple นั้นได้ลองผิด ลองถูกกับผลิตภัณฑ์หลาย ๆ ชนิดไม่ว่าจะเป็นกล้องถ่ายรูปดิจิตอล , เครื่องเสียง , เครื่องเล่น CD , ลำโพง , เครื่องเล่นวิดีโอเกม หรือ TV Set Top Box ซึ่งแต่ละอย่างนั้นล้วนประสบความล้มเหลวด้วยความที่สินค้านั้นไม่สามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้จริง

ยิ่งด้วยสถานการณ์ย่ำแย่ในตอนนั้น Windows กำลังจะแซงหน้า Apple แบบทิ้งห่าง เพราะสามารถใช้จุดเด่นที่ราคาถูกกว่า Apple อย่างเห็นได้ชัด แต่ทาง Apple เองก็ได้พยายามที่จะสร้างคอมพิวเตอร์ที่มีคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยม และประสิทธิภาพดีกว่า แต่ก็เหมือนเดิม ราคาขายปลีกนั้นสูงเกินไป ทำให้ผู้ใช้ส่วนใหญ่เข้าไม่ถึง และในเวลาดังกล่าว Apple ก็ยังไปฟ้องร้อง Microsoft ที่ลอกเลียนแบบกราฟฟิกอินเตอร์เฟสใน Windows โดยการฟ้องร้องนั้นยาวนานนับปีกันเลยทีเดียว และในที่สุด Apple ก็เป็นฝ่ายแพ้ จนในที่สุด John Sculley ก็ต้องลาออกไป และมอบหมายให้ Michael Spindler มารับหน้าที่ CEO แทน

ช่วงลองผิด และลองถูก ในปี ค.ศ.1994-1997

ในช่วงนี้ Apple ได้ลองพัฒนาแพลตฟอร์มระบบปฏิบัติการอื่นจาก Macintosh เช่น A/UX และยังทดลองเปิดตัวโลกออนไลน์ที่ใช้สำหรับ Macintosh โดยเฉพาะ ในชื่อของ eWorld ซึ่งพัฒนาร่วมกันกับ America Online และเป็นตัวเลือกที่ดีในการออนไลน์ และท่องเว็บไซต์ และด้วยความที่ Macintosh นั้นไม่ได้ถูกออกแบบมาให้สามารถทำงานหลาย ๆ โปรแกรมได้ในเวลาเดียวกันนั้นเอง ( Multitasking ) และซอฟต์แวร์สำคัญบางตัวยังถูกบังคับให้ใช้งานได้เฉพาะรุ่นอีกด้วย ทำให้ Apple ต้องการแพลทฟอร์มใหม่สำหรับ Macintosh แล้ว เพื่อที่จะสามารถแข่งขันกับเจ้าอื่นได้

ต่อมาในปี ค.ศ.1994 Apple ได้ร่วมมือกับ IBM และ Motorola ในการผลิตแพลทฟอร์มคอมพิวเตอร์ใหม่ ซึ่งการร่วมมือกันของ IBM และ Motorola ที่มี hardware กับ software ของ Apple ครั้งนี้นั้น สามารถทำให้ Apple กลับไปนำหน้าคู่แข่งอย่าง Microsoft ได้อีกครั้งนึง และได้เปิดตัว Power Macintosh เครื่องคอมพิวเตอร์รุ่นแรกที่ใช้ IBM PowerPC processor ในปีนั้นเอง

ในปี ค.ศ.1996 ได้มีการเปลี่ยน CEO อีกครั้งนึง โดยที่ Gil Amelio มาแทนที่ตำแหน่งของ Michael Spindler โดยหลังจากที่ Gil Amelio ได้เข้ามาทำหน้าที่ CEO แล้วนั้น เขาได้ปลดพนักงานจำนวนมาก อีกทั้งยังริเริ่มโครงการต่าง ๆ มากมายไม่ว่าจะเป็น Taligen , Copland และ Gershwin ซึ่งทั้งหมดนั้นล้มเหลวทั้งสิ้น Gil Amelio จึงได้คิดหาวิธี จนในที่สุดเขาก็ตัดสินใจที่จะซื้อบริษัท NeXT และระบบ NeXTSTEP เพื่อที่จะนำตัว Steve Jobs กลับเข้ามาทำงานใน Apple อีกครั้ง ในตำแหน่งที่ปรึกษา แต่ในปี ค.ศ.1997 นั้น Steve Jobs กลับถูกเลือกให้ขึ้นมาดำรงตำแหน่ง CEO แทน Gil Amelio เพื่อเป็นการกอบกู้บริษัทที่เขาได้สร้างมันขึ้นมากับมือ

หลังจากที่ Steve Jobs กลับมาดำรงตำแหน่ง CEO แล้วนั้น ในปี ค.ศ.1997 ในงาน Macworld Expo เขาได้ประกาศร่วมมือกับคู่อริตลอดการอย่าง Microsoft ด้วยการนำ Microsoft Office มาเปิดบน Macintosh และยังให้ Microsoft ทำการซื้อหุ้นของ Apple เป็นจำนวน 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และในช่วงปลายปีนั้น Apple ก็ได้เปิดตัว Apple Store อีกด้วย

และในปีต่อมา ค.ศ.1998 Steve Jobs ได้ทำการเปิดตัวคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลรุ่นใหม่อีกครั้งในชื่อของ iMac ที่สร้างความโด่งดังไปทั่วทั้งโลก ซึ่งมีรูปลักษณ์คล้ายกับ Macintosh รุ่นแรกที่เขาพัฒนาขึ้นเอง ซึ่งออกแบบโดย Jonathan Ive และเขาก็ยังได้ออกแบบ iPod และ iPhone อีกด้วย

ถ้าหากใครที่กำลังมองหา สล็อตเว็บใหญ่ หรือกำลังมองหา สล็อตเว็บตรง ก็สามารถสมัครกับเราได้เลย ณ ตอนนี้ ภายในเว็บเรานั้นมีเกมสล็อตให้เลือกมากมายกว่า 300 เกม และยังมีระบบออโต้ รองรับ True money wallet อีกด้วยพร้อมทีมงานแอดมินสุดน่ารักคอยตอบปัญหาผ่าน Line ตลอด 24 ชั่วโมง

Apple แบรนด์นี้ ใช่เลย Read More
Line & Line@

Line & Line@ แอพสื่อสารที่คนใช้เยอะที่สุด

Line & Line@

ในอดีตการที่จะส่งข้อความหาใครสักคนนั้น เป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก ไม่ว่าจะทั้งทาง นกพิราบสื่อสาร ม้าเร็ว โทรศัพท์หรือเทเลโฟน โทรสารหรือแฟกซ์ จดหมายทางไปรษณีย์ ซึ่งแต่ละยุคแต่ละสมัคนั้นการสื่อสารช่างยากเย็น แต่ในปัจจุบันนั้น เทคโนโลยีได้ก้าวหน้าขึ้นมาก ทำให้มีอินเทอร์เน็ต ( Internet ) ซึ่งสามารถที่จะเชื่อมต่อกับคนอื่นที่กำลังเชื่อมต่ออยู่ได้ในระยะไกล และในการที่จะเชื่อมต่อกับผู้คนผ่านอินเทอร์เน็ตนั้น ต้องมีแอพพลิเคชั่น ที่ใช้ในการสื่อสาร แอพที่สามารถสื่อสารระยะไกลก็มีมากมายไม่ว่าจะเป็น Line , Line OA , Facebook messenger , Wechat , Twitter เป็นต้น

Line Application

Line เป็นแอพพลิเคชั่น Messaging ที่ใช้ในการติดต่อสื่อสารกัน และเป็นแอพพลิเคชั่นที่ผู้ใช้สมาร์ทโฟนในประเทศไทย และประเทศอื่น ๆ ในแถบเอเชียนิยมใช้กันเป็นการสื่อสารหลัก และด้วยความที่มีฟีเจอร์หลาย ๆ อย่างที่แอพพลิเคชั่นอื่น ไม่มี จึงทำให้แอพพลิเคชั่นไลน์นั้นยิ่งมีคนใช้เยอะขึ้นไปอีก และยังสามารถใช้ได้ทั้งระบบ Android และ IOS และที่สำคัญที่สุดเลยก็คือสามารถดาวน์โหลดมาใช้ได้เลย โดยที่ไม่มีเสียค่าบริการใด ๆ เลย ถือว่าเป็นแอพฟรีดีบอกต่อเลย

ฟีเจอร์ต่าง ๆ ของ Line

Chat

สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยของแอพพลิเคชั่นการสื่อสารเลยคือ แชท การแชทของไลน์นั้นสามารถใช้ในการส่งข้อความถึงบุคคลที่เป็นเพื่อนของเรา เพื่อติดต่อสื่อสาร ส่งข่าวสาร นัดหมาย สั่งของ ทำงาน หรือสั่งงานได้ และยังสามารถส่งข้อความไปยังเพื่อนหลาย ๆ คนในเวลาเดียวกันก็ได้เช่นกัน

Voice Calls

จุดเด่นที่หลาย ๆ คนชอบใช้เลยนั้นก็คือ Voice Calls หรือ การสนทนาด้วยเสียง โดยที่ผู้ใช้สามารถโทรหากัน แล้วคุยกันได้เลยโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น เพียงแค่โทรศัพท์มือถือของทั้ง 2 ฝ่ายนั้น ทำการเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต 4G หรือ 5G หรือว่าจะเป็น Wifi ก็ได้

Voice & Videos Message

นอกจากการแชท และการโทรแบบไม่เสียค่าใช้จ่ายแล้วแอพพลิเคชั่นไลน์นั้น ยังสามารถส่งข้อความที่เป็นเสียง หรือวิดีโอได้อีกด้วย ซึ่งเสียงที่ส่งไปนั้นอาจจะเป็นเสียงพูดสั้น ๆ หรือจะเป็นคลิปวิดีโอต่าง ๆ ที่อยากจะทำการแชร์ให้กับเพื่อน ๆ ความยาวค่อนข้างนานหลายนาทีเลย

Stickers and Emoticons

การแชทปกติธรรมดานั้น อาจจะส่งผลทำให้เพื่อกับตัวอักษรซ้ำซากเดิม ๆ ทางไลน์ได้แก้ไขปัญหาเหล่านี้โดยการให้ผู้ใช้งานสามารถส่ง Stickers หรือ Stickers ในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อให้การสนทนานั้นมีสีสันมากขึ้น และยังสามารถที่จะซื้อแบบฟรี หรือแบบเสียเงินก็ได้เช่นกัน มีให้เลือกหลายร้อยแบบกันเลยทีเดียว

Customizable Wallpaper

หน้าจอแบบเดิม ๆ หน้าต่างแบบเดิม ๆ เบื่อไหม แอพพลิเคชั่นไลน์สามารถที่จะเลือกปรับแต่งวอลเปเปอร์ของผู้ใช้ได้อิสระตามแบบที่มีให้เลือกกว่า 20 แบบ หรือถ้ายังไม่ถูกใจก็สามารถที่จะนำรูปที่อยู่ในโทรศัพท์มือถือของผู้ใช้มาตั้งเป็นวอลเปเปอร์ ก็ได้เช่นกัน

Group Chat

ถ้าหากมีเรื่องที่จะต้องคุยกันหลายคน แต่ต้องมานั่งคุยทีละคนมันเสียเวลาไหม แน่นอนเสียเวลาอยู่แล้ว ในแอพพลิเคชั่นไลน์ สามารถสร้างกลุ่ม กลุ่มที่จะสามารถให้ผู้ใช้เข้ามารวมกันอยู่แล้วคุยพร้อมกันทุกคนได้นั่นเอง ซึ่งเป็นอะไรที่สะดวกสบายมาก สามารถปรับแต่งใช้งานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะกลุ่มการทำงาน กลุ่มเพื่อนต่าง ๆ หรือกลุ่มของผู้ที่ชอบเที่ยว การเล่นเกม อะไรที่คล้าย ๆ กันก็สามารถตั้งกลุ่มคุยกันได้

Timeline

นอกจากการพูดคุยสื่อสารกันแบบปกติทั่วไปแล้ว แอพพลิเคชั่นไลน์นั้นยังมีไทม์ไลน์ที่เป็นโซเชียลเน็ตเวิร์กอีกด้วย สามารถบอกทุกคนที่เป็นเพื่อน หรือสาธารณะได้ว่า เราทำอะไร มีรูปอะไรจะแชร์ โพสสเตตัส คอมเม้นต์ ต่าง ๆ นา ๆ มากมายที่จะให้คุณเป็นที่รู้จักในสังคมใหม่ ๆ

Game

ไลน์ มีเกมในเครือที่สามารถเล่นได้เฉพาะไลน์มากมาย ให้กับสมาชิกที่ใช้งานแอพพลิเคชั่นไลน์ได้เลือกเล่น และสามารถแข่งขันกับเพื่อน ๆ ที่ใช้งานแอพพลิเคชั่นไลน์ได้ด้วยเช่นกัน

Lline business – Official Account Features

Line business คือ แอพพลิเคชั่นที่เป็นส่วนหนึ่งของ Line เหมาะสำหรับการทำธุรกิจ การขาย และการตลาด ที่จะผนวกการสื่อสาร ทางด้านธุรกิจไปพร้อม ๆ กับการสื่อสารระหว่างครอบครัว และเพื่อน ซึ่งจะเหมือนกับ Line เลย ( ใช้ Line ในการ Login ) แต่มีความพิเศษที่ต่างจากไลน์ธรรมดา ด้วยฟีเจอร์ต่างๆ ที่ช่วยโปรโมทธุรกิจของคุณให้มีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น

ฟีเจอร์ต่าง ๆ ของ Line business ( Line@ )

Greeting Message

หลายคนที่เวลาเข้าไปยังร้านค้าแล้ว ก็ต้องการพนักงานต้อนรับ ที่จะมาแนะนำสินค้า หรือบริการต่าง ๆ ของภายในร้านค้านั้น เพื่อฟังรายละเอียดแล้วจะได้ทำการเลือกซื้อ หรือเลือกใช้บริการ ซึ่งฟีเจอร์ Greeting Message นั้นเป็นฟีเจอร์ที่จะส่งข้อความไปยังผู้ที่แอดเรามาครั้งแรก สามารถตั้งได้ว่าจะส่งข้อความอะไรให้กับผู้ที่สดใจสินค้า หรือบริการที่แอดเฟรนมา เช่น การทักทาย เสรอสินค้า แนะนำรายละเอียดของการบริการ

1 On 1 Chat

ในการแชทส่วนตัว 1 ต่อ 1 ผู้ที่อ่านมาถึงตรงนี้ก็จะสงสัยว่า “อ่าว ไม่ต่างอะไรกับไลน์ปกตินี่” แต่เดี๋ยวก่อนตัวแชทของ Line business นั้นสามารถทำอะไรได้มากกว่าการคุยกันของแชทไลน์ธรรมดา อย่างเช่นการติดแท็ค ( Tag ) , การบรอดแคส ( Broadcast ) โน้ด ( Note ) ซึ่งจะสามารถช่วยเหลือผู้ดูแลให้สามารถดูแลลูกค้าได้ทั่วถึงได้

Tag

การติดแท็ค ( Tag ) ซึ่งสามารถทำให้ติดตาม ค้นหาลูกค้าได้สะดวกสบายขึ้น สามารถติดแท็คได้สูงสุดถึง 10 แท็คต่อลูกค้า 1 คนเลยทีเดียว
ตัวอย่างการใช้
ติดแท็ค:ลูกค้าที่สนใจบริการ
ติดแท็ค:ทีมงานที่ดูแลลูกค้ารายนี้
ติดแท็ค:ลูกค้าเก่า/ใหม่

ซึ่งจะเป็นอะไรที่ดีมากสำหรับการบริการที่มีผู้ดูแลหลายคน ด้วยความที่จัดการง่ายและรวดเร็ว และยังสามารถใช้พร้อมกันได้ทุกคนอีกด้วย

Broadcast

ถ้าหากเราจะส่งข่าวสาร โปรโมชั่นต่าง ๆ ให้กับลูกค้าใหม่ และลูกค้าเก่า ที่ได้แอดเฟรนของไลน์ธุรกิจของเราแล้ว การที่จะส่งทีละคนนั้นเป็นอะไรที่ค่อนข้างลำบากแน่นอน ถ้าหากว่าเรามีลูกค้า 1000 คนก็ต้องส่งให้กับทั้ง 1000 คน แล้วถ้าเยอะกว่านั้นละ ก็คงจะนึกภาพไม่ออกกันเลยนะคะว่าส่งข้อมูลให้ลูกค้ากี่วันกว่าจะเสร็จ ดังนั้นแล้วฟังก์ชั่นนี้จึงเป็นอะไรที่ดีมาก การบรอดแคสนั้น คือการส่งข้อความต่าง ๆ ที่เราเซ็ตไว้ ไปยังลูกค้าทั้งหมดที่ทำการแอดเราเป็นเพื่อนแล้วนะคะ ซึ่งการใช้งานสะดวกสบายมาก ๆ เลยสำหรับธุรกิจที่มีลูกค้าเยอะ
ตัวอย่างการใช้งาน
บรอดแคส:โปรโมชั่นใหม่ ๆ ที่กำลังจะใช้งานเร็ว ๆ นี้
บรอดแคส:สินค้าใหม่ ที่กำลังจะเปิดตัว
บรอดแคส:ปิดปรับปรุงระบบ

เป็นยังไงบ้างคะสำหรับฟังก์ชั่นบรอดแคส สามารถใช้งานได้หลากหลายใช่มั้ยละคะ

Note

นอกจากการติดแท็คให้กับลูกค้าแล้ว ยังสามารถที่จะใส่ข้อมูล หรือข้อความสั้น ๆ ไปใน Note ของลูกค้ารายนั้น ๆ ได้เช่นกัน
ตัวอย่างการใช้งาน
โน้ต:ชื่อ-นามสกุล ลูกค้า
โน้ต:ที่อยู่ เบอร์โทรของลูกค้า
โน้ต:ปัญหาเฉพาะลูกค้าบางราย

สามารถใช้งานได้หลากหลาย และยืดหยุนมาก ๆ เลยนะคะ สำหรับฟังก์ชั่นนี้

Rich Message

ริชเมสเสจ เป็นภาพ Banner ที่มีขนาดใหญ่กว้างพอดีกับหน้าจอแชทของไลน์ สามารถที่จะใส่ลิ้งค์ เพื่อให้ลูกค้าคลิกแล้วไปยังหน้าต่างอื่น ๆ ได้ ไม่ว่าจะเด้งไปหน้าเว็บไซต์ของเรา หรือช่องยูทูป หรือเพจในเฟสบุ๊ค ก็สามารถทได้เช่นกัน หรือจะเป็นโปรโมชั่นที่เสนอขาย ที่กดลิ้งค์นี้แล้วไปยังหน้าต่าง ซื้อสินค้าเลยก็ได้

Rich Video

Rich Menu

ริชเมนู เป็นเมนูที่เราสามารถสร้างขึ้นมาได้ ซึ่งจะเป็นเมนูที่อยู่ข้างล่างของแชทของลูกค้า จะสามารถทำให้ลูกค้าสามารถเข้าถึง ข้อมูลต่าง ๆ ได้สะดวกรวดเร็ว มีรูปแบบที่หลากหลาย และสามารถเพิ่มปุ่มได้มากสุดถึง 6 ปุ่ม สามารถนำปรับไปใช้ได้มากมายเลย

Card Message

การ์ดเมสเสจ เป็น การบรอดแคสในรูปแบบของภาพสไลด์ ลูกค้าสามารถที่จะปัดซ้าย หรือขวาเพื่อเลื่อนดูว่าในการ์ดเมสเสจนั้นมีอะไรบ้าง การ์ดเมสเสจมีให้เลือกแสดงถึง 4 แบบ สินค้า , สถานที่ , บุคคล และ รูปภาพ และสามารถที่จะให้แสดงโชว์ขึ้นมามากถึง 9รูปกันเลยทีเดียว

Auto-Reply

การทำธุรกิจนั้นยังไงเราก็ต้องมีช่วงเวลาที่ไม่สะดวก หรือเป็นช่วงเวลาที่ปิดทำการ แล้วในตอนนั้นใครจะช่วยตอบรับลูกค้าละ คำตอบนั้นก็คือ ระบบตอบกลับอัตโนมัติ Auto-Reply เป็นฟีเจอร์ที่ช่วยให้เราสามารถ ตอบคำถามลูกค้า ในช่วงเวลาที่ไม่สะดวกต่าง ๆ เช่น นอดเวลาทำงาน วันหยุด และสามารถที่จะตั้งเวลาตอบกลับอัตโนมัติได้อีกด้วย

Coupon

ฟีเจอร์นี้สามารถประยุกต์ใช้ได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น จัดโปรโมชั่นต่าง ๆ ลดราคาสินค้า หรือบริการ จัดกิจกรรมแจกสินค้า หรือบริการฟรี และยังสามารถใช้แลกเป็นของขวัญ ก็แล้วแต่สะดวกของทางผู้ตั้งได้เลย

Reward Card

บัตรสะสมแต้ม สามารถปรับแต่งให้เข้ากับโปรโมชั่นต่าง ๆ ของทางร้านได้เลย ซึ่งฟีเจอร์นี้ต้องทำการสแกนผ่านทางหน้าร้านเพื่อทำการรับคะแนนเท่านั้น ดังนั้นการใช้สมควรที่จะใช้สำหรับหน้าร้านเท่านั้น

Account Page

มีหน้าต่างที่คล้ายกับเว็บไซต์ เจ้าของธุรกิจสามารถใส่ข้อมูลต่าง ๆ ลงไปได้ ไม่ว่าจะเป็นเวลาเปิด-ปิดทำการ รายละเอียดสินค้าต่าง ๆ ลิ้งค์เว็บไซต์ หรือคอนเทนต์ต่าง ๆ

เป็นยังไงบ้างคะวันนี้ ที่ทางสล็อตเว็บใหญ่ได้นำข้อมูลดีดีเกี่ยวกับ Line และ Line@ ( Line business ) มาให้ได้อ่านกันหลาย ๆ ท่านก็คงจะได้ใช้ประโยชน์จากข้อมูลตรงนี้ เพื่อไปพัฒนาธุรกิจของตัวเอง ต่อยอดให้มีความก้าวหน้ามากยิ่งขึ้น

ถ้าหากใครกำลังมองหา สล็อตเว็บใหญ่ เว็บตรง สามารถสมัครกับทางสล็อตเว็บใหญ่ได้เลย รับรองไม่มีผิดหวังแน่นอน มีเกมให้เลือกกว่า 300 เกม สามารถฝาก-ถอนผ่าน True Money Wallet ได้ มีแอดมินสุดน่ารักบริการตลอด 24 ชั่วโมง

Line & Line@ แอพสื่อสารที่คนใช้เยอะที่สุด Read More
Google

Google Search เครื่องมือค้นหาขั้นเทพ

Google

ในปัจจุบันในยุคของเทคโนโลยีนั้น ข้อมูลคือสิ่งสำคัญ และแน่นอนทุกคนนั้นจะค้นหาข้อมูล เอ๊ะ!! แล้วหาข้อมูลทางไหน คำตอบนั้นก็คือ Search engine นั่นเอง ซึ่งถ้าพูดถึง Search engine หลายคนก็ไม่รู้จักว่าคืออะไร แต่ถ้าหากพูดว่า Google ทุกคนก็จะรู้ทันที อาจจะมีคนสงสัยว่าทั้ง 2 อย่างนี้คืออะไร เดี๋ยววันนี้ทาง สล็อตเว็บใหญ่ จะมาบอกให้นะคะ

Google

Google
Google
Youtube
Youtube
Google Map
Google Map

กูเกิล ( Google ) เป็นบริษัทมหาชนที่ตั้งอยู่ในอเมริกา ที่สร้างรายได้จากการโฆษณาออนไลน์ที่ แสดงขึ้นบน เสิร์ชเอนจินของกูเกิล ( Google Search ) , แผนที่ออนไลน์ ( Google Map ) , วีดีโออนไลน์ ( Youtube ) รวมถึงการขายอุปกรณ์ที่ช่วยในการค้นหา กูเกิลนั้นมีสำนักงานใหญ่ที่เมืองเมาน์ และใช้ชื่อที่รู้จักว่า กูเกิลเพล็กซ์

กูเกิล ก่อตั้งโดยคน 2 คนนั้นคือ แลร์รี เพจ และ เซอร์เกย์ บริน ในตอนที่เขาทั้งคู่กำลังศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ซึ่งทั้งคู่นั้นได้ก่อตั้งบริษัทไปวันที่ 4 กันยายน ค.ศ.1998 ที่เมืองเมนโลพาร์ก ในรัฐแคลิฟอร์เนีย

กูเกิล เสิร์ช ( Google Search ) เป็นเสิร์ชเอนจินที่พัฒนาโดย กูเกิล และยังเป็นเสิร์ชเอนจินที่มีคนใช้งานมากที่สุดในโลก ซึ่งการทำงานของเสิร์ชเอนจินนั้น คือการที่กูเกิลจะเก็บข้อมูลของเว็บไซต์โดยที่ใช้โปรแกรมเพื่อทำการท่องไปยังโลกอินเทอร์เน็ต เรียกว่าสไฟเดอร์ หลังจากที่ทำการเก็บข้อมูลเว็บไซต์มาแล้วนั้น ก็จะมีอัลกอริทึมพิเศษ เป็นอัลกอริทึมเฉพาะที่คิดค้นโดยผู้ริเริ่มก่อตั้ง เพื่อจัดลำดับความสำคัญ และจัดอันดับหน้าเว็บที่สามารถเก็บข้อมูลมาได้

YouTube

นอกจากกูเกิล เสิร์ช แล้วทางกูเกิลก็มียูทูป ( กูเกิล ซื้อยูทูป ในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ.2006 ) แหล่งเผยแพร่ VDO ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และแน่นอนใคร ๆ ก็ชอบเข้าไปใช้บริการ แอดมิน ยังชอบใช้เลยนะคะ ฟังเพลง ดูสตรีมเกม สารคดี มีมากมายให้เลือกดูเลยนะคะ

เป็นยังไงบ้างคะสำหรับข้อมูลที่ทาง สล็อตเว็บใหญ่ ได้นำเสนอในวันนี้ ถึงจะให้ข้อมูลไม่มากก็น้อย แต่ทางสล็อตเว็บใหญ่ก็ตั้งใจที่จะนำข้อมูลมานำเสอให้กับผู้อ่าน ถ้าหากใครกำลังมองหาสล็อตเว็บใหญ่ เว็บตรงคุณมาถูกที่แล้ว สมัครเลยกับเราตอนนี้

Google Search เครื่องมือค้นหาขั้นเทพ Read More